เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2558 นางสาวจงจิตร ชมพูผล ผู้อำนวยการโรงเรียนแก่งคอยร่วมด้วย นายคมกฤช คัมภิรานนท์ รองผู้อำนวยการ กลุ่มบริหารทั่วไป นายสำราญ ซื่อตรง รองผู้อำนวยการชำนาญพิเศษกลุ่มบริหารงานวิชาการ และนางสาวรจนา สุวรรณภา รองผู้อำนวยการชำนาญพิเศษ กลุ่มบริหารงานบุคคลและงบประมาณ ร่วมด้วยบุคลากรภายใต้สังกัดที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังการบรรยาย ถึงการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร หลักสูตรการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ และพัฒนา ICT วันที่ 19-20 มิถุนายน 2558 ณ โรงเรียนแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
โดยมีนายรัมยง อนุมานราชธน ประธานบริษัท Starsoftware และ นาง ณปัทม์ อาบทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Starsoftware เข้าร่วมพูดคุย อธิบายภาพรวมของตัวระบบสนับสนุนและการเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้บริษัท Starsoftware ได้ส่งทีมงานเข้าร่วม การอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ และพัฒนา ICT และอธิบายถึง ระบบสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 นำทีมโดย
- นายณรงค์ พิชิตพร General Manager
- นายธีระพงษ์ จินดาวณิช Project Sales Manager
- นายภานุพงษ์ นฤเบศไกรสีห์ Senior Technical Support
- นายมาฆชา ศิริชนม์ Application Development
- นายนิวัฒน์ จุ้ยนาค Customer Support Manager
- นายเอกธนัช ชอบการกิจ Training Support Manager
- นายเมทิน สุภินนพงษ์ Install
- ณัฐพล รุ่งพิทักษ์ไพศาล Product Specialist
- นายกิตติ ตาแดง Training Support
- นายภัทรกร ซื่อตรง Training Support
ทั้งนี้ได้รับการต้อนรับ และมีผู้เข้าร่วมฟังการบรรยายให้ความสนใจถึงการเปลี่ยนแปลงการก้าวเข้าสู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 จากผู้บริหารสถานศึกษาและคณะครู อาจารย์
เป็นอย่างดี
การเริ่มต้นโครงการ ระบบสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งสามารถแยกย่อยออกเป็น 6 ระบบ ดังนี้
1) ระบบจัดทำหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ
2) ระบบจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนรายบุคคล
3) ระบบรายงานผลสัมฤทธิ์การเรียนการสอนรายคาบ
- ระบบจัดทำแผนและติดตามโครงการเพื่อการประกันคุณภาพ
- ระบบแฟ้มประวัติ/สะสมผลงานของนักเรียนและครู
- ระบบจัดซื้อจัดจ้างและพัสดุครุภัณฑ์
1) ระบบจัดทำหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ช่วยคุณครูในการออกแบบหลักสูตรแบบบูรณาการ เพื่อสนับสนุนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่นักเรียนสามารถ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองผ่านการแนะนำของคุณครู เกิดทักษะชีวิตและอาชีพเท่าทันเทคโนโลยี ในขณะที่คุณครูสามารถประเมินพุทธิพิสัย จิตพิสัย ทักษะพิสัยได้อย่างครบถ้วน
2) ระบบจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนรายบุคคล
คุณครูสามารถวิเคราะห์ศักยภาพนักเรียนรายบุคคลตามมาตรฐานและตัวชี้วัดผ่านระบบการทดสอบที่คุณครูสามารถจัดการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งจัดเก็บ คลังข้อสอบ คลังบทเรียน เพื่อให้เป็นคลังความรู้อันล้ำค่าของโรงเรียนสืบไป
3) ระบบรายงานผลสัมฤทธิ์การเรียนการสอนรายคาบ
เพื่อให้คุณครูและผู้ปกครองสามารถตรวจสถานะและประวัติ การเข้าเรียนรายคาบตลอดจนพฤติกรรมของนักเรียนได้ นอกจากนี้ ระบบยังบันทึกประวัติการสอนของคุณครู เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการนิเทศการสอนได้ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครองในการป้องกันและแก้ไขอย่างทันท่วงที
(3.1) ระบบจัดทำแผนและติดตามโครงการเพื่อการประกันคุณภาพ
ผู้บริหารสามารถติดตามโครงการว่าได้ดำเนินการเป็นไปตามแผนงาน งบประมาณที่ได้กำหนดไว้หรือไม่ ตลอดจนสร้างระดับคุณภาพตามเกณฑ์การประกันคุณภาพภายในแต่ละด้านได้ตลอดเวลา และลดการใช้กระดาษ การจัดทำแผนสามารถทำได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
(3.2) ระบบจัดซื้อจัดจ้างและพัสดุครุภัณฑ์
- บันทึกรายชื่อพัสดุได้ไม่จำกัด
- ระบุรายละเอียดในการขอซื้อ/ ขอจ้าง
- บันทึกขออนุมัติซื้อพัสดุ/จ้าง รายการต่างๆได้ไม่จำกัด
- สามารถพิมพ์บาร์โค้ดที่เป็นรหัสครุภัณฑ์ เพื่อนำไปติดกับตัวครุภัณฑ์ได้
- คำนวณค่าเสื่อมราคาครุภัณฑ์ได้
(3.3) ระบบแฟ้มประวัติ/สะสมผลงานของนักเรียนและครู
- ระบบแฟ้มประวัติ/สะสมผลงานของนักเรียน
มีระบบรวบรวมและจัดเก็บผลงานของนักเรียนอย่างเป็นระเบียบ เพื่อสะดวกรวดเร็วต่อการค้นหาและนำนำข้อมูลมาใช้ สามารถแสดงความก้าวหน้าและผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ในด้านต่างๆของผู้เรียนรายบุคคลได้
- ระบบแฟ้มประวัติ/สะสมผลงานของครู
เป็นแหล่งเก็บประวัติการศึกษาประวัติการรับราชการ ประวัติการสัมมนา การอบรมหรือการศึกษาดูงาน ประวัติ การสอน สามารถสะสมผลงาน เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวนำมาเป็นเอกสารประกอบการประเมิน คุณลักษณะ หรือผลการปฏิบัติงาน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการสอนให้ สมบรูณ์ยิ่งขึ้นต่อไป
การจัดกระบวนการเรียนรู้ จึงพยายามเปลี่ยนบทบาทครูจากผู้บรรยายมาเป็นคณะครูร่วมกันออกแบบกิจกรรมในการจัดกระบวนการเรียนรู้ (Pedagogy)ให้นักเรียนใช้เป็นเครื่องมือไปเรียนรู้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก และเสนอแนะเครื่องมือการเข้าถึงองค์ความรู้ผ่านวิธีการต่างๆ โดยเฉพาะผ่าน Technology ให้เข้าถึงความรู้ได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง นำความรู้ที่ได้มาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนในห้องเรียน เรียกกระบวนการเรียนรู้แบบนี้ว่า Active Learning ที่ยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง (Student-Centered)
โดยระบบจัดการทดสอบออนไลน์เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพผู้เรียน ก็เพื่อให้โรงเรียนมีศูนย์กลางการจัดเก็บข้อสอบตามมาตรฐานตัวชี้วัด คุณครูสามารถนำข้อสอบที่มีอยู่เดิมในรูปแบบไฟล์ Microsoft Word เข้าสู่ระบบได้โดยตรงผ่านระบบเครือข่ายเพื่อจัดชุดทดสอบออนไลน์ และสามารถสอบผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ท สมาร์ทโฟนอย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนทราบผลการสอบทันที และคุณครูได้รับรายงานต่างๆทันทีด้วยเช่นกัน
อีกทั้งโรงเรียนใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าและใช้เทคโนโลยีได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเตรียมสอบทั้ง ค่ากระดาษ ค่าพิมพ์ ค่าซอง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายสูง
ผู้บริหาร มีเครื่องมือในการส่งเสริม กำกับ ติดตาม การวัดและประเมินผลตามมาตรฐานตัวชี้วัดและเรียกดูรายงานต่างๆได้ทุกที่ทุกเวลา
คุณครู สามารถลดเวลาในการทำข้อสอบและจัดชุดทดสอบ ไม่เสียเวลา เย็บ นับ จัด ส่งชุดข้อสอบ ไม่เสียเวลาตรวจข้อสอบ
ระบบมีรายงานคะแนนและวิเคราะห์ค่าต่างๆเพื่อนำมาปรับกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับนักเรียนที่มีศักยภาพต่างกันได้อีกด้วย
เนื่องด้วยในปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อและเทคโนโลยีมากมาย ผู้เรียนจึงต้องมีความสามารถในการแสดงทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและปฏิบัติงานได้หลากกลาย โดยอาศัย ความรู้ในหลายด้าน ความรู้ด้านสารสนสนเทศ ความรู้เกี่ยวกับสื่อ และความรู้ด้านเทคโนโลยี
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนำไปใช้จัดกระบวนการเรียนรู้ และช่วยการเรียนรู้ของนักเรียน เป็นการดำเนินการให้มีระบบ สื่อ สารสนเทศ และเทคโนโลยีเข้าไปช่วยจัดการประสิทธิภาพทุกกระบวนการเรียนรู้
โดยในการนี้ ทางบริษัท Starsoftware หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ระบบการสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 ที่ได้มีการอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรการยกระดับคุณภาพ การจัดการเรียนรู้ และพัฒนา ICT ณ โรงเรียนแก่งคอย จังหวัดสระบุรี จะสามารถขยายผลไปสู่โรงเรียนที่สนใจทั่วประเทศและเป็นก้าวแรกสู่การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ต่อไป